วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง อำเภอหนองปรือ

ประเพณีแห่ปราสาทผึ้งของชาวอำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี
ประวัติและความเป็นมาของประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง ตำบลหนองปรือ อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี
           การจัดทำและแห่ปราสาทผึ้งนั้น พอจะประมวลความได้ว่าเมื่อสมัยก่อนนั้นชาวบ้านชาวเมืองคงยังไม่มีไต้ใช้ หรือน้ำมันตะเกียงเพื่อแสงสว่างในยามค่ำคืน คงต้องอาศัยการไปเที่ยวหาเก็บขี้ชันก้อนบ้าง ขี้ชันโพรงบ้างตามต้นไม้ในป่า หรือได้จากน้ำมันพืชบ้าง เช่น น้ำมันมะพร้าว เอามาทำเป็นประทีปตามไฟเพื่อแสงสว่าง ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ผู้คนคิดขึ้นมาว่าขี้ผึ้งที่เก็บได้จากรวงผึ้งนั้น ก็มีน้ำมันที่พอจะนำมาทำเป็นต้นเทียนตามไฟ เพื่อแสงสว่างได้เช่นกัน
          ฉะนั้น พอถึงปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน หรือนับเดือนตามจันทรคติ ก็คือเดือน ๕ ของทุกๆปี ผู้คนก็จะออกไปหารวงผึ้งกัน และในช่วงเดือน ๕ นี้ ตัวแมลงผึ้งก็กำลังสะสมน้ำหวาน (น้ำผึ้ง) เอาไว้ในรังผึ้งจนเต็ม เพื่อเก็บไว้สำหรับเลี้ยงดูลูกอ่อน เมื่อคนได้น้ำผึ้งและขี้ผึ้งมา ก็ได้อาศัยน้ำผึ้งนี้มารับประทาน เป็นของหวาน และได้นำมาถวายพระภิกษุสงฆ์บ้าง ส่วนขี้ผึ้งนั้นก็จะเก็บรวมๆ กัน มากบ้างน้อยบ้างตามแต่จะหามาได้และก็นำมาถวายพระภิกษุสงฆ์ เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ได้นำขี้ผึ้งมาทำเป็นเทียนตามไฟ สำหรับอ่านและเขียนหนังสือบ้าง และบูชาพระบ้าง ต่อมาคงจะคิดได้ว่า การนำเอาขี้ผึ้งไปถวายพระภิกษุสงฆ์น่าจะได้ทำให้เป็นประเพณีประจำปีสืบต่อกันมา จึงได้มีการจัดทำปราสาทผึ้งขึ้น ลักษณะของปราสาทผึ้งนี้ทำด้วยโครงไม้ไผ่และบุด้วยกาบต้นกล้วย เพื่อให้มีการเสียบประดับประดาแต่งด้วยดอกไม้อันทำมาจากขี้ผึ้ง วิธีทำดอกไม้ด้วยขี้ผึ้งนั้น คือ เมื่อถึงฤดูกาลหรือเทศกาลประจำปี ชาวบ้านจะถือวันท้ายสงกรานต์ คือวันที่ ๑๗ เมษายนของทุกปี เป็นวันพิธีแห่ปราสาทผึ้ง เมื่อถึงวันนี้ชาวบ้านก็จะนำขี้ผึ้งมารวมกันที่วัด เสร็จแล้วก็จะนำเอาขี้ผึ้งนี้รวมกันใส่กระทะใบใหญ่ ตั้งไฟเคี่ยวให้ละลาย ต่อจากนั้นก็จะเอาผลมะละกอผลเล็กๆ มาแกะเป็นรูปดอกไม้ต่างๆ ตามต้องการ แล้วเอาผลมะละกอนี้จุ่มลงในกระทะที่เคี่ยวขี้ผึ้ง แล้วนำมาจุ่มลงในภาชนะที่ใส่น้ำเย็นเอาไว้ ขี้ผึ้งก็จะหลุดออกมาเป็นดอกไม้ที่ทำเอาไว้ แล้วนำดอกไม้ขี้ผึ้งนี้ไปเสียบประดับที่ตัวปราสาททำให้ดูสวยสดงดงาม เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้คนในบ้านก็พากันออกมาตั้งขบวนแห่ปราสาทผึ้งนี้ไปรอบๆ หมู่บ้านแล้วกลับมาที่วัดตามเดิม ต่อจากนั้นก็จะทำพิธีถวายปราสาทผึ้งแด่พระภิกษุสงฆ์ พอตกค่ำลง ก็จะนิมนต์พระภิกษุสงฆ์สวดพระพุทธมนต์เย็นและก็จะพากันมาทำบุญตักบาตรในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น เป็นการฉลองปราสาทผึ้งเป็นอันเสร็จพิธีแห่ปราสาทผึ้ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น