วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ข้อสอบวิชาการขับขี่จักรยานยนต์

คำสั่ง  ให้เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว
1.     ข้อใดคือสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจราจร
ก.   ขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างช้าๆ
ข.   ดื่มสุราขณะขับขี่รถจักรยานยนต์
ค.   ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มีสายตาที่ปกติ
ง.    ขับขี่จักรยานยนต์โดยไม่ฝ่าฝืนเครื่องหมาย จราจร

2.     ก่อนการใช้งานเราควรตรวจสอบสภาพรถ จักรยานยนต์ยกเว้นข้อใด
ก.     คันเร่ง
ข.     สวิทซ์กุญแจ
ค.     ขาเปลี่ยนเกียร์
ง. ขาตั้ง

3.     ความบกพร่องทางร่างกายข้อใดเป็นสาเหตุเกิดอุบัติเหตุจราจรมากที่สุด
    ก.  ตาบอดสี
    ข.  โรคหัวใจ
    ค.  โรคลมชัก
    ง.  สายตายาว

4. เมื่อพบรถฉุกเฉินผู้ขับขี่ควรปฏิบัติ   อย่างไร
   ก. ลดความเร็วของรถลง
    ข. จอดหรือหยุดรถชิดขอบทางด้านซ้าย
    ค. จอดหรือหยุดรถในช่องเดินรถประจำทาง
    ง. หยุดรถและออกทันทีที่รถฉุกเฉินขับผ่านไป





5. เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร
   ก.  เลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที
   ขลดความเร็วของรถลงและเลี้ยวซ้ายผ่านไปได้ทันที
   .  หยุดรอรถจนกว่าจะได้รับสัญญาณไฟเขียวจึงเลี้ยวผ่านไปได้
   ง.  หยุดรอให้คนข้ามถนนและรถที่มาจากทางขวาผ่านไปก่อนและโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง


6. เมื่อผู้ขับรถลงจากทางลาดชันหรือภูเขา    จะต้องปฏิบัติอย่างไร
    ก. ใช้เกียร์ต่ำ
    . ปลดเกียร์ว่าง
    ค. ดับเครื่องยนต์
    ง. ใช้เบรกตลอดเวลา

7. บริเวณใดกลับรถได้
    ก. บนสะพาน
    ข. ทางม้าลาย
    ค. บริเวณทางร่วมแยก
    . บริเวณที่มีเส้นแบ่งช่องทางจราจรเป็น เส้นประ

8. รถจักรยานยนต์จะต้องให้เสียงสัญญาณ  จราจรด้วยเสียงแตรและให้ได้ยินในระยะไม่น้อยกว่า
   ก.  40 เมตร
   ข.  50 เมตร
   ค.  60 เมตร
   ง.  90 เมตร

9. จงบอกสีของสัญญาณไฟจราจรจากบนลงล่าง
    ก. แดง เหลือง เขียว
    ข. เหลือง เขียว แดง
    ค. เขียว แดง เหลือง
    ง. เขียว เหลือง แดง

10. ในการขับขี่รถ ต้องใช้ใบอนุญาตขับรถควบคู่กับเอกสารใด
     ก.  หนังสือเดินทาง
     ข.  สาเนาทะเบียนบ้าน
     ค.  บัตรประจาตัวประชาชน
     ง.  สาเนาใบคู่มือการจดทะเบียนรถ

11. ข้อใดคือพื้นฐานของการขับขี่ รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย
ก.    สัญญาณจราจรที่ไม่สำคัญ ไม่ควรจำ
ข.    ขับขี่รถจักรยานยนต์สวนทางหรือช่องทางวิ่ง
ค.         มองดูด้านหลัง และให้สัญญาณไฟทุกครั้งเมื่อ  เปลี่ยนช่องทาง
ง.          เพิ่มความเร็วทุกครั้ง เมื่อพบสภาพถนนที่     ขรุขระและเป็นหลุมทราย

 12. การให้สัญญาณมือหรือสัญญาณของผู้ขับขี่ จะต้องให้ผู้ขับขี่ซึ่งขับขี่รถอื่นเห็นได้ในระยะกี่เมตร
    ก.  30   เมตร
ข.       60   เมตร
ค.       80   เมตร
ง.        100 เมตร

13. ข้อใดคือบทลงโทษของผู้ขับขี่ รถจักรยานยนต์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ก.         ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000 –10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ข.         ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 เดือน ปรับตั้งแต่ 3,000 –10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ค.         ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 เดือน ปรับตั้งแต่ 4,000 –10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ง.          ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับตั้งแต่ 5,000 –10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
http://phuket.dlt.go.th/images/26.gif14. ถ้าท่านขับรถด้วยความเร็ว 90 ก.ม./ ชม. แล้ว เห็นเครื่องหมายดังรูป             จะต้องปฏิบัติอย่างไร
ก.     ขับรถต่อไปโดยไม่สนใจ
ข.     ถึงเขตชุมชน
ค.     ลดความเร็วไม่เกิน 50 ก.ม. / ชม.
ง.      ขับรถไม่ต่ำกว่า 50 ก.ม. / ชม
http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRXkkivomSpVIYNEpuqEWQQJJsqsH0DegURdGJleFpo1CQ0qQsy
15.             เครื่องหมายจราจรดังรูปหมายถึงข้อใด

ก.       หยุดตรวจ
ข.       ห้ามรถหยุด
ค.       ห้ามใช้เสียง
ง.        ห้ามรถจอด
http://www.dlt.go.th/th/sara/knowledgedrl/images/r2.jpg
16.           เครื่องหมายจราจรดังรูปหมายถึงข้อใด

ก.      ห้ามแซง
ข.      ห้ามเลี้ยวซ้าย
ค.      ห้ามกลับรถไปทางขวา
ง.       ห้ามเปลี่ยนช่องเดินทางรถไปทางซ้าย
http://www.cha-uat.net/oldweb/station_exp/traffic/images/warn/sign622.jpg
17.           เครื่องหมายจราจรดังรูปหมายถึงข้อใด

ก.     สะพานแคบ
ข.     ทางแยกต่างๆ
ค.     ทางแคบด้านขวา
ง.      ทางขึ้นลาดชัน



18. ถ้าผู้ขับขี่เห็นสัญญาณไฟจราจรกระพริบสีเหลือง ควรปฏิบัติตามข้อใด
ก.          ให้ผู้ขับขี่ขับรถต่อไป
ข.          ให้ผู้ขับขี่ใช้ทางเดินรถนั้นได้
ค.          ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วลงและผ่านทางเดินรถได้
ง.      ให้ผู้ขับขี่ลดความเร็วของรถลงเพื่อเตรียมหยุดรถ

19. กรณีใดที่สามารถจอดรถหรือหยุดรถได้
ก.          บนสะพานหรืออุโมงค์
ข.          บนทางเท้า
ค.          ในเขตปลอดภัย
ง.      ริมถนนที่ไม่มีเครื่องหมายจราจรเตือน

20.  ข้อเสียของการตั้งขาตั้งเดี่ยวคือ
.  ล้มได้ง่าย
.  เคลื่อนรถช้า
.  ใช้จอดรถชั่วคราว
.  เปลืองเนื้อที่จอดรถ

21. เกียร์ต่ำใช้สำหรับทางประเภทใด
.  ทางโค้ง
.  ทางปกติ
.  ทางขรุขระ
.  ทางลาดชัน
22.  ข้อควรคำนึงเมื่อเลี้ยวขวาคือข้อใด
.  ให้ระวังรถทางโค้ง
.  ให้ระวังรถทางซ้าย
.  ให้ระวังรถทางตรง
.  ให้ระวังรถทางหน้า



23.  บริเวณใดเป็นที่ห้ามแซง
.  ทางโค้ง
.  ทางตรง
.  ทางขรุขระ
.  ทุกๆบริเวณ

24.  ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 16/2537 มีการกำหนดระดับแอลกอฮอล์ไม่เกินเท่าใด (มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์)
ก.       30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ข.       50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ค.       100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ง.        200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

25.  การวิ่งบนถนนที่มีกรวดทราย ผู้ขับขี่จะรักษาการทรงตัวอย่างไร
ก.     วิ่งยกล้อหลบไปหลบมา
ข.     วิ่งด้วยความเร็วเพื่อจะได้ไม่ล้ม
ค.     วิ่งหลบไปหลบมา ด้วยความเร็ว
ง.      ลดเกียร์ต่ำ ลดความเร็ว บังคับแฮนด์ให้สมดุลกับการเคลื่อนไหว

26.  พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ การเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทางผู้ขับขี่ต้องให้สัญญาณให้ผู้ขับขี่รถอื่นเห็นสัญญาณได้ไม่น้อยกว่า
ก.       30 เมตร
ข.       50 เมตร
ค.       60 เมตร
ง.        100 เมตร





27.  พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ตามหลังรถฉุกเฉินอย่างน้อยระยะเท่าใด
ก.     20 เมตร
ข.     30 เมตร
ค.     50 เมตร
ง.      100 เมตร

28.  คำว่า “ทาง” ตามความหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ คือ
ก.       ทางเท้า
ข.       ทางข้าม
ค.       ทางเดินรถ
ง.        ทางม้าลาย

29.   การขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ประหยัดน้ำมันควรปฏิบัติอย่างไร
ก.                 อุ่นเครื่องยนต์ก่อนเดินทางประมาณ 20 นาที
ข.                 เหยียบเบรคบ่อยๆขณะขับขี่รถจักรยานยนต์
ค.     ขับขี่และเร่งเครื่องแบบกระชากในการจราจรที่ติดขัด
ง.      ขับรถด้วยความเร็วสม่ำเสมอ อัตราเร็วคงที่ประมาณ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง

30.  ข้อใดเป็นวิธีการดูแลรักษารถจักรยานยนต์ที่ถูกต้อง
      ก.  ล้างทุกครั้งที่ใช้เสร็จ
      ข.  ขับขี่และเร่งเครื่องแบบกระชาก
      ค.  เหยียบเบรคบ่อยๆขณะขับขี่รถจักรยานยนต์
      ง.  ตรวจเช็ครถจักรยานยนต์ทุกครั้งก่อนใช้



 



























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น